เมนู

ถึงธรรมนั้น ซึ่งเป็นจตุราริยสัจจธรรม อีกอย่างหนึ่ง เราเข้าถึงซึ่งศาสน-
ธรรม อันเป็นเหตุนำสัตว์ให้ตรัสรู้ คือเข้าถึงว่า นี้ธรรม นี้วินัย. อีกอย่าง
หนึ่ง ในบรรดาสภาวธรรมทั้งหลาย อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นแหละ ทรง
จำแนกแล้ว ด้วยสามารถแห่งกุศลเป็นต้น (และ) ด้วยสามารถแห่งขันธ์เป็น
ต้น ตามความเป็นจริง ธรรมใด ประเสริฐ คือสูงสุด ได้แก่ ประเสริฐใน
ศาสนานั้น เราเข้าถึงแล้ว คือเข้าถึงแล้วโดยประจักษ์ในตน ได้แก่ ทำให้
แจ้งแล้ว ซึ่งธรรมนั้นอันประเสริฐ อันหมายถึงธรรม คือ มรรค ผล และ
นิพพาน. เพราะฉะนั้น จึงประกอบความว่า การที่เรามาสู่สำนักของพระ
ศาสดานี้ เป็นการมาดีแล้ว ไม่ไร้ประโยชน์ การที่เราคิดว่า จักฟังธรรมใน
สำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วจักบวช เป็นความคิดที่ไม่ไร้ประโยชน์ ดังนี้.
จบอรรถกถาปิลินทวัจฉเถรคาถา

10. ปุณณมาสเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระปุณณมาสเถระ


[147] ได้ยินว่า พระปุณณมาสเถระ ได้ภาษิตคาถานี้ไว้อย่างนี้ว่า
ผู้ใดไม่ทะเยอทะยานในโลกนี้หรือโลกอื่น ผู้นั้น
เป็นผู้จบไตรเพท เป็นผู้สันโดษ สำรวมแล้วไม่ติดอยู่
ในธรรมทั้งปวง เป็นผู้รู้แจ้งซึ่งความเกิดขึ้นและความ
เสื่อมไปของโลก ดังนี้.
จบวรรคที่ 1

อรรถกถาปุณณมาสเถรคาถา


คาถาของท่านพระปุณณมาสเถระ เริ่มต้นว่า วิหริ อเปกฺขํ ดังนี้.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร.
ได้ยินว่า ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี พระ
เถระนั้น บังเกิดในกำเนิดแห่งนกจักรพรากเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไป
มีจิตเลื่อมใสแล้ว จึงเอาจะงอยปากของตนคาบดอกสาหร่ายไป ทำการบูชา
แล้ว. ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในกัป
ที่ 17 แต่ภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง 8 ครั้ง. ส่วนในกัปนี้
เมื่อศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า กัสสปะ เสื่อมลง บังเกิด
ในตระกูลกุฎุมพี บวชแล้ว บำเพ็ญสมณธรรมจุติจากนั้นแล้ว ท่องเที่ยว
ไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ นามว่า สมิทธะ
ในพระนครสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้. ในวันที่เขาเกิด หม้อเปล่าทุกใบ
ในเรือนนั้น ได้เต็มไปด้วยสุพรรณมาศ (ถั่วทอง). ด้วยเหตุนั้น คนทั้ง
หลายจึงขนานนามเขาว่า ปุณณมาส. เขาเจริญวัยแล้วประสบความสำเร็จ
ในวิชชาของพราหมณ์ทั้งหลาย กระทำการวิวาห์ ได้บุตรคนหนึ่ง เกิด
เบื่อหน่ายการอยู่ครองเรือน เพราะเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยอุปนิสัย เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ฟังธรรม ได้เฉพาะแล้วซึ่งศรัทธา บรรพชาแล้ว ถึง
พร้อมแล้วด้วยกิจทุกอย่าง หมั่นประกอบเนือง ๆ ในกัมมัฏฐาน 4 ขวนขวาย
วิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต. ด้วยเหตุนั้นท่านจึงกล่าวคาถาประพันธ์ นี้ไว้
ในอปทานว่า
ในกาลนั้น เราเป็นนกจักรพรากอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำ
สินธุ เรามีสาหร่ายล้วน ๆ เป็นภักษา และสำรวมดีแล้ว